โปรยหัวแบบนี้ไม่ได้มาขายทัวร์นะ 555 แต่จะมาชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวเจแปนแดนอาทิตย์อุทัยกัน …
ต้องยอมรับว่า ณ นาทีนี้ไม่มีประเทศไหนที่จะร้อนแรงเท่าญี่ปุ่นอีกแล้ว เมื่อฟรีวีซ่าบวกกับค่าตั๋วจากสารพัดสายการบินที่กระหน่ำซัมเมอร์เซลกันไม่ได้หยุดหย่อน จะเหลือติดขัดอยู่เรื่องเดียว คือ มีงบจำกัด แต่อยากเที่ยวเยอะ ๆ นี่แหละจะทำไงดี …บทความนี้จะแนะนำโปรแกรมท่องเที่ยวชมเมืองสุดฮิตช่วงหน้าหนาวในญี่ปุ่น โดยใช้งบสวย ๆ เพียง 3 หมื่นกว่าเท่านั้น เริ่มเก็บเงินตั้งแต่เดือนนี้ หาจังหวะจองตั๋วถูก ๆ แล้วเที่ยวกันต้นปีหน้าได้เลย
เหตุผลที่แนะนำให้ไปในช่วงต้นปีก็เพราะคนไทยมักพร้อมใจกันเที่ยวญี่ปุ่นช่วงเดือนเมษายนเพื่อไปชมซากุระบาน หรือไม่ก็ราวพฤศจิกายนไปจนถึงธันวาคมเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งหากเดินทางในช่วงดังกล่าว ที่พักมักมีราคาแพงและหายาก … แต่รู้หรือไม่ว่า อีกฤดูของญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาดคือฤดูหนาวนี่แหละ บางคนอาจนึกถึงแต่เทศกาลหิมะที่ซัปโปโรโดยไม่รู้เลยว่าภาคกลางของญี่ปุ่นที่ไปง่าย ๆ นั้นสวยสะกดเหลือเกินในฤดูหิมะโปรยปราย เรียกได้ว่ากินกันไม่ลงเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับฤดูอื่น
แผนการเดินทางนี้จะพาไปเที่ยวภูมิภาค Chubu หรือภาคกลางของญี่ปุ่น โดยใช้ Shoryudo highway bus ticket แบบ 5 วัน ที่สามารถใช้แลกตั๋วรถไฟไปกลับสนามบินและนั่งรถบัสระหว่างเมืองหลักในภูมิภาคนี้ได้ในราคาสุดประหยัด … เส้นทาง “โชริวโด” หมายถึง “มังกรผงาด” ที่พาดผ่านแหล่งท่องเที่ยวระดับ highly recommended ซึ่งคัดมาเน้น ๆ ได้แก่ ชิราคาวาโกะ, ทาคายาม่า, มัตสีโมโตะ, คานาซาว่า และก็นาโกย่า ลองนับดูสิว่ากี่เมือง แต่ละแห่งเด็ด ๆ ทั้งนั้น เอาล่ะไปดูแผนการเดินของเรากันดีกว่า
วันแรก เดินทางถึงสนามบิน Centrair เมือง Nagoya ช่วงเช้า
จากนั้นนำ highway bus ticket ที่ซื้อมาจากเมืองไทยแลกตั๋วรถไฟเดินทางเข้าเมืองนาโกย่า
ด้านบนของ highway bus ticket จะมีคูปอง 2 ใบใช้แลกตั๋วรถไฟไป-กลับ สนามบิน-เมืองนาโกย่า
เรามีเวลาที่นาโกย่าหนึ่งวันเต็ม ๆ เดินเล่นในเมืองให้เต็มที่ไปเลย … ทั้งนี้นาโกย่าเป็นอีกหนึ่งหัวเมืองสำคัญในภาคกลางของญี่ปุ่น โดยไม่ไกลจากสถานีรถไฟหลักเป็นย่าน shopping และมี highlight ที่ไม่ควรพลาดอาทิ Nagoya Tower, Oasis 21 และอย่าพลาดช็อปปิงที่ discount store ชื่อดัง DONKIHOTE
วันที่สอง เดินทางจากเมือง Nagoya สู่เมือง Matsumoto
เที่ยวเมืองและปราสาท Matsumoto (มัตสึโมโตะ)ปราสาทมัตสึโมโตะเป็น 1 ใน 12 ปราสาทของญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพดั้งเดิมและสวยงามมาก ตัวปราสาทใช้สีเข้มจึงได้รับฉายาว่าปราสาทอีกา
credit The Official Tourism Site of Matsumoto, Nagano, Japan
วันที่สาม เดินทางไปเที่ยว ฮิรายุออนเซ็น
การแช่ออนเซ็นช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ยิ่งได้แช่บ่อกลางแจ้งที่รายล้อมด้วยธรรมชาติเป็นหุบเขาซึ่งถูกปกคลุมขาวโพลนด้วยหิมะ รับรองได้ว่านี่จะเป็นที่สุดของความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจเลยทีเดียวcredit TripAdvisor
จากนั้นเดินทางต่อไปพักและเที่ยวที่ทาคายาม่า ..
ทาคายาม่า หรือ little Kyoto เป็นเมืองเก่าท่ามกลางเทือกเขาสูงที่ยังคงบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง อาิทิ เดินชมตลาดเช้าริมแม่น้ำ, ช็อปปิงและชิมสาเกที่ย่านเมืองโบราณ ถ่ายภาพเก๋ ๆ กับสะพานแดงประจำเมือง
วันที่สี่ เดินทางจากทาคายาม่าไปเที่ยวชิราคาวาโกะ
“ชิราคาวาโกะ” ชื่อนี้คนไทยรู้จักดีเพราะเป็นหมู่บ้านโบราณที่มีสถาปัตยกรรมเฉพาะจนได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลก และด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูง ในช่วงฤดูหนาวจึงมีหิมะปกคลุมไปทั่วเสมือนสวรรค์น้อย ๆ ที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิตจากชิราคาวาโกะขึ้นบัสต่อไปพักที่เมืองคานาซาว่า
วันที่ห้า ช่วงเช้าเที่ยวสวน Kenroku-en ที่เมืองคานาซาว่า
จากนั้นช่วงบ่ายเดินทางกลับมายังเมืองนาโกย่าและนั่งรถไฟไปสนามบินเพื่อกลับเมืองไทยไฟลท์ดึก
ทั้งนี้โปรแกรมการเดินทางระหว่างเมืองข้างต้น รวมถึงจากนาโกย่าไป-กลับสนามบิน จะใช้ Highway bus ticket ทั้งหมด มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มเติมก็เฉพาะกรณีขึ้นรถบัสหรือ subway ภายในตัวเมืองเท่านั้น ซึ่งก็จ่ายเป็นเที่ยว ๆ ไปหรือจะเหมาแบบรายวันก็ได้ แต่ละเมืองก็มักจะมีขายในราคาประมาณ 500-700 yen
ดูแผนการเดินทางมาจนครบแล้ว ทีนี้มาดูกันว่า เที่ยวหนักขนาดนี้ใช้งบประมาณเท่าไหร่
งบประมาณ- ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ-นาโกย่า หาจองในช่วงโปรโมชั่นน่าจะได้การบินไทยหรือสายการบิน full service อื่น ๆ ในราคาไม่เกิน 18500 บาท (ผมเช็คเล่น ๆ ของการบินไทย มีโปรแบบจองได้เลยตอนนี้ราคา 18500 เชื่อว่า จากนี้อีกหลายเดือนต้องมีโปรอื่น ๆ ที่ราคาดีกว่านี้แน่ ๆ) … นี่มันบินหรูเลยนะ ขอบอก!
- ค่าอาหารวางไว้แบบกลาง ๆ วันละ 1000 บาทหรือราว 3000 yen ทั้งทริปรวม 5000 บาท ทานแบบเลิศๆ สลับธรรมดาได้ตลอดทริปไม่ต้องเหนียมเลย
- ที่พักคืนละ 1500 บาท รวม 4 คืน 6000 บาท ราคานี้หาไม่ยากจนเกินไป และไม่ต้องลำบากถึงขนาดนอนห้องรวมและห้องน้ำแชร์ ถ้าเดินทางสองคนพักห้องคู่ยิ่งหาง่ายมากในงบต่อคนขนาดนี้
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ เช่น วัด, ปราสาท, สวนสาธารณะ, ค่าฝากกระเป๋า รวมถึงค่ารถในเมืองบางเมือง วางไว้เผื่อ ๆ 1800 บาทน่าจะพอ
- ค่า high way bus ticketแบบ 5 วัน ราคา 14,000 Yen หรือราว 4,700 บาท
ในส่วนของตั๋ว Highway bus ticket ต้องซื้อที่เมืองไทยแล้วไปแลกเป็นตั๋วต่าง ๆ ที่ญี่ปุ่นคล้ายกับ JR pass - ค่า pocket wifi ไว้สำหรับ up facebook ให้เพื่อน ๆ like รัว ๆ วันละ 200 รวม 1000 บาท (จองโดยใช้ link นี้ และใส่ 9mot ลงในช่อง promotion code เพื่อให้ได้สิทธิ์ส่วนลดเหลือ 200 บาทจากราคาเต็ม 280 บาท สำหรับการใช้งานแบบไม่จำกัด)
ทั้งหมดนี้รวมกันก็ยังไม่ถึง 37,000 เลย ถ้าใครมีงบเหลือก็แบ่งไป shopping หรือไว้ upgrade ที่พักหรือทานอาหารให้เลิศขึ้นไปอีกระดับ
Tips สำหรับคนรักการเดินทางและโปรดปรานญี่ปุ่น
เห็นไหมว่าการวางแผนที่ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง … นอกจากจัดเตรียมโปรแกรมล่วงหน้าแล้ว อะไรที่ประหยัดหรือลดภาระทางการเงินได้ก็ควรทำ อย่างพวกตั๋วเครื่องบินถ้าซื้อผ่านบัตรเครดิตได้จะดีมาก เพราะยืดระยะเวลาการใช้เงินสดออกไป แถมได้สะสมแต้มเพื่อเปลี่ยนเป็นของรางวัลต่าง ๆ ได้อีกในอนาคตนอกจากนี้ในกรณีที่ถือบัตรเครดิตหลายใบ และมีแผนว่าจะนำไปใช้ในต่างประเทศ ให้เช็คดูว่า ใบไหนคิดอัตราค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินต่ำสุดก็ใช้ใบนั้นเมื่อต้องเดินทาง อย่างเช่นของธนาคารกรุงศรีฯ จะคิดค่าความเสี่ยงเพียง 2% ในขณะที่บางธนาคารอาจคิดสูงถึง 2.5%
ที่มา http://www.9mot.com/2016/05/affordable-luxury-chubu-japan-winter-trip/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น