วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
Townhouse/ Townhome/ Homeoffice ในเมืองไทยต่างกันอย่างไร
หลายท่านอาจจะเคยสงสัยกันอยู่บ่อยๆนะคะว่า ทาวน์เฮ้าส์, ทาวน์โฮม และ โฮมออฟฟิศ ทั้ง 3 คำนี้แตกต่างกันหรือไม่ และอย่างไร คำว่าทาวน์เฮ้าส์ และทาวน์โฮม ในบ้านเรานั้นมีความหมายที่ใกล้เคียงกันมาก จนหลายๆ ท่านอาจสงสัยว่ามันเหมือนกันหรือไม่ วันนี้ CheckRaka.com จะขอเสนอมุมมอง และความเห็นของเราค่ะว่า บ้านทั้งสามแบบนั้น มีลักษณะเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร
ทาวน์เฮ้าส์ (Townhouse)
คำว่า "Townhouse" หากแปลตามพจนานุกรมของ Cambridge.org นั้นจะแปลได้ว่า "One of a row of similar houses that are usually joined by a shared wall" แปลง่ายๆ ก็ประมาณว่า "บ้านที่มีหน้าตาคล้ายๆ กัน และมีกำแพงติดกัน หรือร่วมกันเป็นแถวเป็นแนวไป" อาจมีความสูงเพียงแค่ 2 ชั้น อาจใช้วัสดุก่อสร้างพื้นฐาน และใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกไม่มาก ตัวอย่างของโครงการหมู่บ้านที่เรียกตัวเองว่าเป็นประเภททาวน์เฮ้าส์ ก็เช่น
ภาพตัวอย่างโครงการทาวน์เฮ้าส์จากบ้านพฤกษา 75 เพชรเกษม-ยอแซฟ โดย Pruksa
ภาพตัวอย่างโครงการทาวน์เฮ้าส์จากโนโว วิลล์ วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 5 โดย Supalai
ภาพตัวอย่างโครงการทาวน์เฮ้าส์จากโกลเด้น ทาวน์ ปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์
จาก Goldenland Residence
ทาวน์โฮม (Townhome)
เป็นคำที่เพิ่งนิยมใช้ในช่วงหลังๆ พัฒนามาจากคำว่า Townhouse นั่นเอง เป็นคำที่ไม่มีอธิบายความหมายไว้ใน English Dictionary ทั่วไป แต่เป็นคำที่มักใช้โดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในทางการตลาด ให้ดูดีดูทันสมัย เพราะในแง่ภาษาอังกฤษคำว่า "Home" ให้ความรู้สึกของความอบอุ่นในบ้าน หรือความเป็นบ้านของเราเอง ไม่ใช่เพียงแค่ตัวโครงบ้าน (House) หรือ Feeling ของการเป็นบ้านของคนอื่น เป็นต้น ตัวอย่างของโครงการหมู่บ้านที่เรียกตัวเองว่าเป็นทาวน์โฮมก็เช่น กัสโต้ ท่าน้ำนนท์ - พระราม 5 จาก กัสโต้ วิลเลจ (ในเครือ ควอลิตี้เฮ้าส์) และ โมดิ วิลล่า - ลาดกระบัง สุวรรณภูมิ โดย Property Perfect
ตัวอย่างภาพโครงการทาวน์โฮมจากกัสโต้ ท่าน้ำนนท์ - พระราม 5
โดย กัสโต้วิลเลจ (ในเครือ ควอลิตี้เฮ้าส์)
ตัวอย่างภาพโครงการทาวน์โฮมจากโมดิ วิลล่า - ลาดกระบัง สุวรรณภูมิ
โดย Property Perfect
โฮมออฟฟิศ (Homeoffice)
คำว่า "Homeoffice" หากแปลตามพจนานุกรมของ Cambridge.org นั้นจะแปลได้ว่า "An office in someone′s home, or a room in a home with a phone, computer, etc. in it" แปลง่ายๆ ก็ประมาณว่าสำนักงานกึ่งที่พักนั่นเอง มีการออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับใช้ทำงานได้สะดวก และมีการออกแบบระบบเพื่อรองรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องแฟกซ์ไว้เป็นอย่างดี ในบ้านเรา Homeoffice มักจะหมายถึง โครงการบ้านจัดสรรที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็นโฮมออฟฟิศโดยเฉพาะ ซึ่งจะต่างจากบ้าน หรือตึกแถวที่นำมาดัดแปลงให้เป็นสำนักงานออฟฟิศในภายหลัง ทำเลที่อาจเป็นที่นิยมสำหรับโฮมออฟฟิศก็เช่น แถวพระราม 3 ทาวน์อินทาวน์ ตัวอย่างโครงการที่เรียกตัวเองว่าเป็นโฮมออฟฟิศก็เช่น บี สแควร์ พระราม 9-เหม่งจ๋าย จาก แสนสิริ และ S-Town Home Office ลาดพร้าว 130 จาก เสนาดีเวลลอปเม้นท์
ตัวอย่างภาพโครงการโฮมออฟฟิศจากบี สแควร์ พระราม 9 - เหม่งจ๋าย โดย Sansiri
ตัวอย่างภาพโครงการ S-Town ลาดพร้าว 130 โดย Sena Development
ข้อแตกต่าง
Townhouse เทียบกับ Townhome
ในบ้านเรานั้น Townhouse กับ Townhome นั้นค่อนข้างจะคล้ายคลึงกันมาก และก็ไม่มีกฎเกณฑ์ หรือหลักการตายตัวว่าแตกต่าง หรือจะต้องแตกต่างกันอย่างไร แต่ถ้าจะแยกแยะความแตกต่างนั้น ก็พอจะแยกแยะได้ดังนี้
(ก) ในแง่ภาพลักษณ์และการวางตำแหน่งสินค้า - ในบ้านเรานั้น เจ้าของโครงการบางราย และผู้บริโภคอาจมองความแตกต่างของคำสองคำนี้ว่าเป็นเรื่องของภาพลักษณ์ (Image) และการวางตำแหน่งสินค้า (Positioning) ของเจ้าของโครงการ ซึ่งก็จะเป็นประมาณว่า ถ้าเป็นบ้านแถวเรียงกัน ใช้วัสดุธรรมดา สูงแค่ 2 ชั้น ราคาไม่สูง ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านตึก ก็อาจจัดกลุ่มโครงการตัวเองว่าเป็น Townhouse ส่วนบ้านแถวที่สูงเกิน 2 ชั้น มีดีไซน์สวย ใช้วัสดุที่ดีกว่า ดูโมเดิร์น มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า และให้ความรู้สึกอบอุ่นไม่เหมือนบ้านตึก ก็อาจจัดกลุ่มโครงการตัวเองว่าเป็น Townhome แต่หลักการตรงนี้ก็ไม่ได้เป็นกฎตายตัว เจ้าของโครงการบางรายอาจไม่ได้มองแบบนี้ก็ได้ (เช่น แสนสิริหรือโนเบิล) และโครงการไหนจะเลือกใช้คำไหนก็แล้วแต่เจ้าของโครงการจะเลือก ซึ่งก็คงจะมีเรื่องของ Branding และ Positioning เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
(ข) ในแง่กฎการควบคุมอาคาร - ปกติการก่อสร้างอาคารจะต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับที่ 55 (พศ. 2543) ออกภายใต้ พรบ. ควบคุมอาคาร ซึ่งไม่ว่าโครงการจะเรียกตัวเองว่าเป็น Townhouse หรือ Townhome แต่ถ้าจำนวนชั้นต่างกัน กฎเกณฑ์การก่อสร้างที่ใช้บังคับจะไม่เหมือนกัน กล่าวคือ ถ้า Townhouse หรือ Townhome นั้นมีจำนวนชั้นไม่เกิน 3 ชั้น ตามกฎจะเรียกว่าเป็น "บ้านแถว" ซึ่งในการสร้างบ้านแถวก็จะต้องปฏิบัติตามกฎของบ้านแถว เช่น ต้องมีความกว้างไม่น้อย 4 เมตร สร้างติดกันได้ไม่เกิน 10 คูหา เป็นต้น (คำว่า "บ้านแถว" ในกฎกระทรวงนี้คือห้องแถว หรือตึกแถวที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยซึ่งมีที่ว่างด้านหน้า และด้านหลังระหว่างรั้ว หรือแนวเขตที่ดินกับตัวอาคารแต่ละคูหา และมีความสูงไม่เกิน 3 ชั้น) แต่ถ้าอาคารที่สร้างขายไม่ว่าจะเรียกตัวเองว่าเป็น Townhome หรือ Townhouse ถ้าสูงเกิน 3 ชั้น เช่น 4 ชั้น กฏหมายจะจัดเป็นประเภทอื่นไป เช่นเป็น "อาคารพาณิชย์" หรือ "ตึกแถว" ซึ่งในการสร้างก็ต้องทำตามกฎของอาคารพาณิชย์ หรือตึกแถว เป็นต้น
Homeoffice เทียบกับ Townhouse / Townhome
ส่วน Homeoffice นั้นค่อนข้างจะแตกต่างกับ Townhouse และ Townhome ชัดเจน คือ
(ก) วัตถุประสงค์ - Homeoffice เป็นบ้านที่ออกแบบตั้งแต่แรกมาเลยว่าให้เป็นออฟฟิศสำนักงานกึ่งที่พัก และภายในโครงการอาจมีที่จอดรถส่วนกลางค่อนข้างมากกว่า Townhouse และ Townhome ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการรองรับลูกค้าที่จะมาติดต่อ หรือเยี่ยมเยียนออฟฟิศภายในโครงการ
(ข) ในแง่กฎการควบคุมอาคาร - Homeoffice มักจะถูกจัดให้เป็น "อาคารพาณิชย์" ซึ่งก็จะต้องปฏิบัติตามกฎการสร้างอาคารพาณิชย์ เช่น ต้องมีที่ว่างอย่างน้อยเท่าไหร่ ต้องมีการร่นแนวอาคารอย่างน้อยเท่าไหร่ เป็นต้น คำว่า"อาคารพาณิชย์" ในกฎกระทรวงคืออาคารที่ใช้เพื่อประโยชน์ในการพาณิชยกรรม หรือบริการธุรกิจ รวมถึงอาคารอื่นใดที่ก่อสร้างห่างจากถนน หรือทางสาธารณะไม่เกิน 20 เมตร ซึ่งอาจใช้เป็นอาคารเพื่อประโยชน์ในการพาณิชยกรรมได้
ตารางสรุปความแตกต่าง
เป็นยังไงกันบ้างคะคราวนี้พวกเราคงน่าจะพอทราบถึงข้อแตกต่างคร่าวๆ ของบ้านทั้ง 3 แบบแล้ว หวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยเพื่อให้ท่านได้ทราบถึงข้อแตก ต่าง และสามารถนำไปประกอบการเลือกซื้อทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศได้ดีขึ้นนะคะ
ที่มา http://pantip.com/topic/32283331
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
แค่หกส่วนก็พอ
ที่กรุงไทเปมีผู้รับเหมาก่อสร้างคนหนึ่ง เป็นคนหนุ่มที่ชาญฉลาดที่รู้กันทั้งวงการ มีหัวการค้าเป็นเลิศ ทำงานคล่องแคล่วว่องไว พร้อมลุยงานหนัก...
-
ผมไม่เคยรู้จักหลวงปู่สุภา พระเกจิชื่อดัง กระทั่งทราบข่าวท่านละสังขารทางหนังสือพิมพ์ พอได้อ่านคอลัมสกู๊ปหน้า 1 ไทยรัฐ วันที่ 5 กันยายน 2...
-
ฝั่งทะเลอันดามัน 1.หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะที่โดดเด่นด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวนวลละเอียดราวกับผงแป้ง หัวใจของสิมิลันคือ หินเรือใบที่โ...
-
มัล คอล์ม แกลดเวลล์ไม่เชื่อว่าการมีพรสวรรค์จะนำไปสู่ความสำเร็จ สิ่งที่สำคัญจริงๆคือ กฎ 10,000 ชั่วโมง เขากล่าวว่า " เราทุกคนสาม...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น