กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา (7 พ.ย.)งานเปิดสาขาออนไลน์ของบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ซีมิโก้ จำกัด(มหาชน) ที่อาคารออลซีซั่น เพลส ชั้น 3 หญิงสาววัยกลางคนนางหนึ่งเดินเฉิดฉายเข้ามาในงาน จากเฟอร์นิเจอร์(เครื่องประดับเพชร)ที่เธอใส่ทำให้เจ้าตัวดูงามระยิบบ่งบอกถึงฐานะที่มั่งคั่ง
ด้านเจ้าภาพ(ผู้บริหารบล.ซีมิโก้)สะกิดผู้สื่อข่าวว่านั่นไงมาม่าบลูหรือ ศรีฟ้า แจ่มวุฒิปรีชา นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น
กระจอกข่าวกรูเข้าหาเป้าหมายและตีวงล้อมเพื่อสัมภาษณ์ มาม่าบลู ขณะที่เจ้าตัวยิ้มและทักทายอย่างเป็นกันเอง
ทุกประโยคที่สนทนา บ่งบอกว่าเธอเป็นคนตรงไปตรงมาไม่มีอะไรปิดบัง และไม่มีประโยคที่บอกว่าให้ออฟเรคคอร์ด(ห้ามเขียน)
จากปากของมาม่าบลูเธอเล่าว่า ได้ยึดอาชีพเล่นหุ้นมา 10 กว่าปีแล้ว ขณะที่ไม่ได้บอกว่าปัจจุบันมีพอร์ตลงทุนเท่าไหร่ แต่ในแวดวงนักลงทุนว่ากันว่า พอร์ตเธอมีระดับพันล้าน!
มาม่าบลู กล่าวว่า เธอเล่นหุ้นก๊วนเดียวกับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีพอร์ตลงทุนระดับพันล้านเช่น สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือฉายา เสี่ยปู่ และ สอง วัชรศรีโรจน์ หรือฉายาเสี่ยสอง
อย่างไรก็ตามมาม่าบลูบอกว่าเธอเล่นหุ้นกับทุกคนที่มาชวน ไม่ได้จำกัดว่าเป็นก๊วนใคร!
ขณะที่ไม่ได้เอ่ยชื่อชนะชัย ลีนะบรรจงเศรษฐีหุ้นอีกรายที่สนิทชิดเชื้อกับเธอและในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องที่คณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งในวงการเซียนหุ้นล่ำลือกันว่ามาม่าบลูแตกคอกับรุ่นพี่คนนี้ซะแล้ว หลังจากเมื่อเมื่อไม่นานมานี้ มาม่าบลูเป็นพันธมิตรในการเข้าเทคโอเวอร์หุ้นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง บมจ. อีเอ็มซี
มาม่าบูลเล่าชัดถ้อยชัดคำถึงสไตล์ การเล่นหุ้นว่าเธอเป็นนักเก็งกำไร ตัวยง โดยยอมรับว่ามักจะเล่นหุ้นตัวเล็กๆ ไม่ชอบเล่นหุ้นพื้นฐาน(หุ้นปัจจัยพื้นฐานดีหรือหุ้นบลูชิพ)
มาม่าบลูเคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมาว่า ฉันมันพวกนักเก็งกำไร ส่วนหุ้นพื้นฐานเป็นยังไง ฉันไม่รู้จัก
สำหรับปี 2550 นี้ เธอบอกว่า แม้จะมีหุ้นพลังงานอยู่ในพอร์ตไม่มากนัก แต่จากตลาดหุ้นที่ขึ้นแรงรอบนี้ พอร์ตโตเป็น 4 เท่าแล้ว
พร้อมพูดติดตลกอีกว่า อย่างหุ้น บมจ.ปตท.(PTT) ซื้อสะสมไว้ 1,000 หุ้นแล้ว แต่ก็ไม่รู้ทำไมเวลาสั่งซื้อแต่ละครั้ง(ซื้อคราวละ 100 หุ้น) ราคาหุ้นกลับไม่ไปไหนเลย เลยคิดว่าวันไหนที่หมั่นไส้หุ้นตัวนี้เพราะเห็นว่าราคาวิ่งขึ้นจัง ก็เลยเข้าไปซื้อทีละ 100 หุ้นทุกที แต่ราคาก็จะหยุดขึ้นทุกที
พร้อมกับหัวเราะและพูดอีกว่า สมน้ำน่า(ราคา)อยากขึ้นดีนัก
ส่วนสาเหตุที่ไม่ชอบเล่นหุ้นพื้นฐาน มาม่าบลู เล่าว่า เนื่องจากหุ้นเหล่านี้จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ โดยรอบที่ผ่านมาหุ้นที่ขึ้นแรง ๆจะเป็นหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่นักลงทุนต่างชาติจะซื้อขายกันมาก ดังนั้นทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้าเมื่อไหร่ออกเมื่อไหร่
การเล่นหุ้นตัวใหญ่จะยากกว่าหุ้นขนาดเล็ก และจากประสบการณ์ที่เล่นหุ้นมากว่า 10 ปี ก็เล่นหุ้นตัวเล็กมาตลอดจึงมีความเข้าใจการเล่นหุ้นประเภทนี้ดี ทั้งตัวหุ้น จังหวะเข้าซื้อและขายออก ซึ่งรวมไปถึงการดูมูลค่าการซื้อขายด้วย
มาม่าบลู เผยกลยุทธ์การเล่นหุ้นอีกว่า หุ้นที่น่าสนใจต้องไม่ใช้หุ้นที่ราคาวิ่งขึ้นไปแล้ว นั่นเป็นช่วงปลายแล้ว ส่วนหุ้นที่น่าสนใจสำหรับเธอ คือ เป็นหุ้นที่ราคายังไม่วิ่ง เป็นต้น พร้อมแย้มตัวอย่าง เช่น หุ้นSAM ( บมจ.สามชัย สตีล อินดัสทรี) เป็นต้น
อย่างไรก็ตามเซียนหุ้นรายนี้ยอมรับว่า การเล่นหุ้นขนาดเล็กก็ถือว่าเสี่ยงกับการขาดทุนสูง (opportunity loss) และยอมรับว่าที่ผ่านมาก็เคยมีขาดทุน!
หากเข้าไปซื้อแล้ว เห็นว่าราคาหุ้นยังนิ่งๆไม่ไปไหน หรือมีโอกาสขาดทุนสูงก็จะยอมขายตัดขาดทุนทันที เพราะไม่รู้จะถือต่อไปทำไม อย่าง บมจ.อีเอ็มซี (EMC) ก็ยอมรับว่าถือมากเหมือนกันพอเห็นราคาไม่ไปไหนก็ขายทิ้ง
นอกจากนี้มาม่าบลูยอมรับว่าที่ผ่านมามีหุ้นขนาดเล็กบางตัวรู้ๆกันอยู่ว่าเป็นหุ้นปั่น ซึ่งก็เป็นปกติเพราะหุ้นตัวเล็กปั่นง่าย สร้างข่าวได้ง่าย
มาม่าบลู กล่าวว่า ปัจจุบันเธอเปิดพอร์ตเล่นหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ประมาณ 10 ราย แต่ส่วนใหญ่มักจะนั่งเล่นหุ้นประจำอยู่ที่บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ชั้น 3 อาคารสินธรทาวเวอร์ แถมยังพูดติดตลกอีกว่า มานั่งเป็นเจ้าแม่ที่นี่
อนึ่งมาม่าบลู เป็นเซียนหุ้นที่มีการศึกษาระดับสูงสุด ปริญญาโท(เอ็มบีเอ)จากสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) และจบปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์เคมี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี 2518
ที่มา http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=34936
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น