ภาพโดย เซียว อวิ๋นฉง ศิลปินสมัยปลายราชวงศ์หมิง
อาจารย์เซนไม่เอ่ยวาจา หลับตานิ่ง จากนั้นสักพักจึงโพล่งถามเหล่าสานุศิษย์ว่า "ทำอย่างไรจึงจะกำจัดวัชพืชออกจากพื้นที่โล่งนี้ได้?" บรรดาสานุศิษย์ต่างนิ่งงัน เพราะคิดไม่ถึงว่าอาจารย์เซนจะถามคำถามพื้นๆ เช่นนี้ออกมาได้
ศิษย์ผู้หนึ่งเอ่ยตอบว่า "ใช้จอบเสียมแซะขุดทำลายวัชพืชทิ้งไปให้หมด" เมื่ออาจารย์เซนได้ฟัง เพียงอมยิ้มไม่กล่าวกระไร
ศิษย์อีกผู้หนึ่งตอบว่า "ใช้ไฟเผา วัชพืชทั้งหมดย่อมถูกทำลายไป" อาจารย์เซนได้ฟังแล้ว ยังคงไว้ซึ่งรอยยิ้ม พร้อมกับผงกหัวเล็กน้อย
ศิษย์คนที่สามตอบว่า "ใช้ปูนขาวโรยบนวัชพืชให้ทั่ว เท่านี้บรรดาวัชพืชก็จะตายหมด" อาจารย์เซนยังคงมีปฏิกริยาเช่นเดิม
ศิษย์คนที่สี่เห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า "วิธีการของพวกเขาล้วนไม่ถูกต้อง เพราะล้วนไม่ได้กำจัดถึงรากวัชพืช การกำจัดวัชพืชที่ถูกต้องต้องถอนรากถอนโคน"
เมื่อเหล่าสานุศิษย์ต่างหมดคำตอบแล้ว อาจารย์เซนจึงเอ่ยว่า "พวกเจ้าล้วนตอบได้ดี ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าจงแบ่งที่ดินผืนนี้ออกเป็นส่วนๆ แล้วใช้วิธีการที่แต่ละคนได้เสนอมาในการกำจัดวัชพืซส่วนของใครของมัน แล้ววันนี้ของปีหน้าพวกเจ้าจงมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้ง"
หนึ่งปีผ่านไป เหล่าสานุศิษย์ต่างมารวมตัวกันอีกครั้ง แต่พื้นที่ซึ่งเดิมเต็มไปด้วยวัชพืชนั้นไม่มีแล้ว กลับกลายเป็นพืชพันธุ์ธัญญาหารเหลืองอร่ามไปทั่วผืนดิน เนื่องจากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บรรดาสานุศิษย์ใช้วิธีการต่างๆ นานา ล้วนไม่สามารถกำจัดวัชพืชได้อย่างหมดจด สุดท้ายจึงได้แต่ปลูกพืชพันธุ์ที่เป็นผลิตผลทางการเกษตรลงไปแทนที่เพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชเติบโตขึ้นมาอีก
ยามที่เหล่าศิษย์มารายล้อมอยู่นั้นพืชพันธุ์ทั้งหลายต่างกำลังสุกงอมเต็มที่ ทว่าอาจารย์เซนได้ล่วงลับดับขันธ์ไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว คำสอนสุดท้ายที่อาจารย์ได้ทิ้งไว้ให้เหล่าสานุศิษย์ก็คือ วิธีกำจัดวัชพืชที่ได้ผลที่สุด มีเพียงวิธีเดียวคือปลูกพืชพันธุ์ที่ใช้การได้ทับลงไปแทนที่ ส่วนวิธีเดียวที่จะทำให้จิตวิญญาณของตนเองไม่ว่างเปล่า คือปลูกฝังด้วยคุณธรรมอันดีงามเท่านั้น
ภาพโดย อวิ้น โซ่วผิง ศิลปินสมัยราชวงศ์ชิง
ที่มา http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=34912
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น