บทความนี้แปลมาจากรัชเซล เบเกอร์ นักเขียนชาวอเมริกัน
เขาให้แง่คิด 10 ข้อแก่นักศึกษามหาวิทยาลัย เพื่อทำให้โลกไม่วุ่นวายกว่าที่เป็นคะ


ชื่อ:  images.jpeg
ครั้ง: 694
ขนาด:  4.9 กิโลไบต์
.........................


จริงๆแล้วผมควรจะร่วมแสดงความยินดีกับพวกคุณในวันสำคัญวันนี้และกลับไปโดยไม่พูดอะไร แต่มันคงเป็นแบบนั้นไม่ได้เพราะนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชีวิตพวกคุณ


เราอยู่ในช่วงเวลาที่แตกต่างจากยุดสมัยก่อนมากกว่าที่เราคิดไว้ ในงานรับปริญญาสมัยก่อน บุคคลที่ขึ้นมาพูดจะเพื่อบั่นทอนกำลังใจของคุณ เพื่อให้พวกคุณท้อแท้ และ หมดหวัง เพราะ นั่นคือกฏของคนในยุคก่อน เหมือนที่ผมเคยเจอตอนเรียนจบ


ตอนนั้นการพูดใช้เวลายาวนานถึงสองวันครึ่งและเต็มไปด้วยความอึดอัด แต่นั่นมันคือปี 1947


โชคดีของพวกคุณ ที่ทางรัฐบอกกับผมไว้ว่าถ้าผมพูดเกิด 20 นาทีจะถือเป็นการทรมานคนฟัง และ ถ้าพูดนานถึง 30 นาทีจะมีคนมาเชิญผมลงจากเวที แต่ถ้าผมสามารถพูดให้จบได้ภายใน 15 นาที พวกเค้าจะเลี้ยงข้าวกลางวันผม และ ผมก็อยากทางข้าวฟรีอยู่พอดี



ถ้ามันเป็นไปตามที่ผมวางไว้ พวกคุณจะเห็นผมเดินลงในนาทีที่ 16 แต่มันไม่ง่ายเลย การที่จะพูดให้จบใน 15 นาทีก็เหมือนการเอาคณะโอเปร่าไปใส่ไว้ในตู้โทรศัพท์ การที่ผมจะพูดให้จบได้ในเวลา 15 นาที ผมคงต้องตัดเรื่องราวที่ไม่จำเป็นออกไปและตัดมุมตลกต่างๆออกไป และ ถ้าคุณมาเพื่อฟังมุมตลกเหล่านั้น บางทีคุณอาจจะไม่ชอบการพูดครั้งนี้ของผม

ผมจะบอกกับพวกคุณว่า เมื่อคุณออกไปสู่โลกกว้างนั้น พยายามอย่าทำให้มันเลงร้ายมากไปกว่าที่มันเป็นอยู่ มันคงจะดีถ้าผมสามารถให้คำแนะนำกับพวกคุณได้เป็นร้อยๆข้อ แต่ผมต้องการพูดเพียง 15 นาที ผมจึงไม่มีเวลามากพอที่จะบอกคุณทั้ง 100 ข้อ แต่ผมจะบอกพวกคุณเพียง 10 ข้อเท่านั้น เพราะ ไม่มีใครสามารถจำได้ทั้ง 100 ข้ออยู่แล้ว อย่าว่าแต่ 10 ข้อเลย


และนี่คือ 10 คำแนะที่จะช่วยทำให้โลกใบนี้ไม่เลวร้ายมากไปกว่าเดิม

One: Bend down once in a while and smell a flower.

หนึ่ง: ยอมก้มตัวลงบ้่าง หากมันจะทำให้คุณได้กลิ่นของดอกไม้

สอง: อย่าไปในที่ต่างๆและพูดตลอดเวลา เพราะ ตอนนี้เรามีฝ่ายพูดมากกว่าฝ่ายฟัง เรามีอุปกรณ์ที่ใช้สื่อสารมากมาย เช่น วิทยุ, ทีวี และ โทรศัพท์ เรายังมีสติ๊กเกอร์ติดรถและมันทำให้รถพูดได้ ตอนนี้เรามีเสื้อผ้าที่พูดได้ ผมไม่แนะนำให้คุณใส่เสื้อผ้าที่พูดได้ออกไปข้างนอก


สาม: ข้อสามจะเชื่อมกับข้อสอง ซึ่งก็คือ เป็นผู้รับฟังบ้างในบางครั้งแล้วคุณจะแปลกใจกับสิ่งต่างๆที่คุณได้ยิน คุณจะได้ยินเสียงข้าวโพดออกฟัก ได้ยินเสียงหลังคาอลูมิเนียมที่โดนแสงเดด หรือกระทั่งตอนฤดูร้อนคุณอาจจะได้ยินเสียงฝุ่นตกลงบนสิ่งของ เสียงคนเดินเข้ามาใกล้คุณ เสียงทำนองที่ไพเราะจากท่วงทำนอนเพลงของ Mozart หรือแม้กระทั่งเสียงของคนที่คุณรักที่ได้จากไปแล้ว เวลาคุณนั่งเงียบๆอยู่ในห้อง บางทีคุณอาจจะพูดจาใหญ่โต ถึงแม้มันจะดูน่าสนใจ น่าติดตาม จนเกินความเป็นจริง แต่ถ้าคุณหยุดและลองฟังเสียงของตัวคุณเอง เหมือนที่คนอื่นฟังคุณ มันอาจจะทำให้คุณหยุดพูดจาใหญ่โต พูดจาน่าสนใจ



สี่: นอนแก้ผ้า
เพราะทุกวันนี้หลายๆคนเลิกแต่งตัวให้ดูดีเพื่อไปดูละคร ดังนั้นทำไมถึงจะต้องแต่งตัวเพียงเพื่อที่จะนอน มากไปกว่านั้น เดี๋ยวนี้คุณไม่สามารถสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า กินเบคอนกับไข่ โดยไม่ถูกคนอื่นมอง ดังนั้นแล้วการนอนแก้ผ้าจึงเป็นเรื่องไม่ดีที่ทำให้ให้คุณรู้สึกดีได้โดยไม่ถูกตำรวจจับ


ห้า: ปิดทีวีเดือนล่ะหนึ่งหรือสองครั้งแล้วหันมาอ่านหนังสือแทน

มันอาจจะทำให้ความคิดของคุณตื่น แต่ถ้ามันทำให้คุณง่วงนอน อย่างน้อยคุณก็เป็นผู้ชนะ เพราะ การหลับมันก็ยังจะดีกว่าการที่จะต้องนั่งดูข่าวสารที่ไม่จรรโรงใจที่ทางสถานีโทรทัศน์ยัดเยียดให้กับคุณ


หก: อย่าพกปืนไปในที่สาธารณะ
อย่าแม้กระทั้งทิ้งมันไว้ที่บ้านนอกจากคุณจะเก็บกระสุนทั้งหมดไว้ที่ตู้เซฟอีกแห่งหนึ่ง ทางทีดีที่สุดคือเก็บอาวุธปืนของคุณไว้ที่บ้าน ไม่ใช่พกมันออกไปซื้อของที่ร้านค้าในยามดึก บางคนถามผมว่า “แล้วสิทธิเสรีส่วนตัวที่จะพกอาวุธล่ะ” ผมก็จะบอกกับคุณว่าคุณควรจะใช้สิทธิที่คุณมีให้ถูกทาง ไม่ควรจะอ้างว่าคุณสามารถพกมันได้ เพียงเพราะคุณมีสิทธิที่จะพก



เจ็ด: เรียนรู้ที่จะกลัวรถยนต์
แม้ว่าไม่ใช่ปัญหาที่จะสามารถทำลายประเทศนี้ได้ ถึงแม้มันจะเป็นเพียงรถยนต์ แต่ผลการศึกษาเกี่ยวกับเส้นทางหลวงที่จำเป็นจะต้องมีในอนาคตนั้นหน้ากลัวมาก มันบ่งบอกว่าถ้าพวกคุณโตขึ้นและอยู่ในช่วงวัยกลางคน ถนนที่คุณใช้จะมีถึง 22 เลน ในสมัยก่อนเราฆ่าม้าเพราะมันมากเกินไป แต่ตอนนี้เราต้องทำลายรถยนต์แทนที่จะสร้างเพิ่มเพราะตอนนี้มันมีมากไป

แปด: เด็กๆจะช่วยสร้างสีสรรให้ชีวิตของคุณ
เด็กจะช่วยให้คุณไม่แก่ก่อนวัย พวกเค้ายังช่วยให้คุณเรียนรู้อะไรอีกมากมาย เมื่อพวกคุณแก่ตัวไป การมีลูกจะทำให้คนรู้สึกผิดเวลาที่คุณทำอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้พวกเขาไม่ภูมิใจ เพราะโลกเราในตอนนี้เต็มไปด้วยคนที่ไม่สนใจสิ่งต่างๆรอบตัว บางคนไปฆ่าคนมาก็ไม่ได้รู้สึกผิดเท่าไร ดังนั้นแล้วลูกๆของพวกคุณคือความแตกต่างที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต


เก้า: แต่งงาน
ผมรู้ว่าพวกคุณคงไม่อยากได้ยินคำนี้ แต่การแต่งจะสร้างความพึงพอใจให้คุณได้ยาวนานกว่าการซื้อรถ BMW มันจะสร้างรากฐานที่มั่นคงในการเลี้ยงดูให้แก่ลูกของคุณและยังสร้างโอกาสให้คุณได้ทำงานมากขึ้น เพื่อหาเงินส่งลูกๆไปโรงเรียน


ผมขอแนะนำว่าตอนแต่งงาน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าให้ทนายของคุณร่างสัญญาที่ว่า เมื่อคุณหย่าคุณจะต้องแบ่งทุกสิ่งทุกอย่าง
ชีวิตคู่ก็ยากอยู่แล้ว และบางทีก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คุณวางแผนไว้ พูดถึงทนายแล้วทำให้ผมอยากบอกกับพวกคุณว่า อย่าไปยุ่งเกียวกับทนายกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของคุณนอกเสียจากคุณไม่มีอะไรทำและอยากที่จะฆ่าเวลา


และข้อสุดท้าย: ยิ้มเข้าไว้
พวกคุณโชคดีมากกว่าหลายๆคนในประเทศบนโลกใบนี้เพราะคุณเป็นคนอเมริกา และมันเป็นการยากที่จะแนะนำสิ่งต่างๆให้กับคุณ เพราะ ผมผ่านสิ่งต่างๆมามากมายทั้ง สงคราม และ ภาวะเศรษฐกิจถดทอย แต่ผมกลับไม่เคยเจอและพบเห็นคนในชาติเต็มไปด้วยความโกรธมากเท่านี้


ความโกรธกลายเป็นนิสัยของพวกเราไปแล้ว คุณพบเห็นมันตลอดเวลา บนหน้าของนายแบบและนางแบบในการเดินแบบ เสียงจากวิทยุและทีวี คนธรรมดาโจมตีนักการเมืองรวมถึงภรรยาของเค้าเอง ความโกรธและความหยาบคาบกลายเป็นการบ่งบอกให้คนอื่นๆรับรู้ว่าคุณเหนื่อยกับทุกอย่างและไม่สามารถรับมันได้อีกแล้ว การพูดแย่ๆเกิดขึ้นบ่อยๆและคุณไม่สามารถหลบเลี่ยงมันได้
เราโกรธและไม่พอใจกับทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา ปัญหาคือทำไม ทำไมความโกรธกลายเป็นหลักพื้นฐานในการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา แต่ความจริงแล้ว มันไม่ได้มีอะไรมากเกี่ยวกับประเทศนี้ที่คุณควรจะโกรธ เราเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และอยู่ในช่วงที่โลกสงบสุขที่สุด เรายังคงเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

ผมต้องขอโทษไว้ล่วงหน้าและขอพูดถึงเรื่องราวในอดีต แต่ประเทศเรายังคงเต็มไปด้วยคนที่ยังจำได้ว่าเงินเพียง 35 เหรียญต่อสัปดาห์ก็เพียงพอที่จะเลี้ยงชีพได้ ผู้คนไม่พึงพอใจการการถูกเรียกเก็บภาษีมากเกินไป แต่ในช่วง 1950 ภาษีสูงสุดอยู่ที่ 91 เปอร์เซ็น ทหารเป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจ และ มีการแบ่งแยกและแตกแยกเกิดขึ้นมากมายในประเทศนี้

แล้วทำไมเราจะต้องโกรธ ผมคิดว่ามันคงเป็นเพราะประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของเรา เพราะ คนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้จะถูกหล่อหลอมโดยสิ่งต่างๆมากมายที่ทำให้คุณเข้าใจผิด สิ่งต่างๆเหล่านี้รวมไปถึง นักการเมืองของเรา และ สื่อต่างๆเช่นทีวีและวิทยุ เพราะ หน้าที่ของเค้าคือการทำให้ประเทศนี้โกรธอยู่ตลอดเวลา

อย่างที่พวกเรารู้ ข่าวที่ดีๆหรือเรื่องราวที่ดีๆ มันไม่สามารถขายได้และไม่สามารถทำให้ประชาชนทนนั่งฟังและนั่งดูอยู่หน้าจอทีวีได้เป็นเวลานาน

ดังนั้น เมื่อคุณออกไปในโลกกว้าง คุณจะพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางคนที่ตะโกนใส่หน้ากันตลอดเวลา และเมื่อคุณเจอกับคนเหล่านั้น ผมแนะนำให้คุณยิ้มตอบ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกนั้น

และตอนนี้ดูเหมือนผมจะพูดเกิน 15 นาทีแล้ว คงจะอดข้าวกลางวันฟรีไป

ยินดีกับพวกคุณในวันนี้ครับ