เลยนั่งเขียนจุดเข้าซื้อ - ขายของตัวเองไว้ดูเล่น
วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557
แต่งตัวถูก ขายของแพง ... สำเร็จยาก
หลายคนที่ดิฉันได้โค้ชทั้งส่วนตัวและคลาสช็อปปิ้ง มีปัญหาเล็กๆที่ยึดเขาไว้คล้ายๆกัน คือ ชอบแต่งอะไรก็ได้ ที่สบายๆ ...
ความสบาย คือ ปัจจัยเล็กๆ แต่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกในการแต่งตัว
แท้ที่จริง พวกเราไม่มีใครชอบ เวลาแต่งตัวแล้วเกิดความลำบาก ความอึดอัด เจ็บเท้า เมื่อยหลังหรอก ... แต่ต้องเข้าใจว่า ทำไมหลายคนยังทำ ทั้งๆที่ ไม่สบายบางอย่าง
ส่วนสำคัญที่เราต้องถามตัวเอง คือ มุมมองในการแต่งตัว สำหรับเรา เป็นเรื่องอะไร
- การแต่งตัว คือ ก็แค่การปกปิดร่างกาย
- การแต่งตัว เป็นเรื่องยุ่งยาก ต้องใช้เงินทอง สิ้นเปลือง
- แฟชั่น เทรนด์ เป็นเรื่องน่าเหนื่อยในการติดตาม
- ไม่มีใครจะมามองเราหรอก ใครจะไปสนเราล่ะ
ประเด็นอีกส่วนที่สำคัญ คือ เราทำมาหากิน ในเรื่องเกี่ยวกับอะไร
สินค้าหรือบริการที่เราให้กับคนอื่นนั้น สนนราคาสักเท่าไหร่กัน
เรามีหน้าที่ ในการเชื่อมต่อสินค้าหรือ บริการนั้น เพื่อส่งไปให้กับลูกค้าเสมอ ใช่หรือไม่
เช็คพ็อยท์ ที่อยากฝากให้คิด คือ
- เราพูดถึงสินค้าหรือบริการ ในมูลค่าประมาณเท่าไหร่
แล้ว
การแต่งตัวของเรา ถ้าประเมินค่าเงิน เราแต่งตัวชุดล่ะประมาณเท่าไหร่
และ
การแต่งตัวของเราเป็นเรื่องในระดับเดียวกันกับ มูลค่าสินค้าที่เรากำลังพูดถึงหรือไม่
- หรือ สินค้าหรือบริการของเรา ให้อะไรในมุมของลูกค้า เช่น ถ้าเราทำงานในสถาบันการเงิน
ความน่าเชื่อถือ คือ กุญแจเบอร์หนึ่ง ที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจ เลือกเราใช่มั๊ย แล้ว การแต่งตัวของเรา ดูน่าเชื่อถือหรือไม่ ในมุมมองของคนอื่น
- หรือ ถ้าเราขายของต่อชิ้นราคาไม่แพง แล้วเราอยากจะขายที่ละมากๆมั๊ยล่ะ ขายทีก็หยุดพักผ่อนได้ ดีกว่าขายทีละชิ้น เหนื่อยเท่ากันแต่ได้ตังค์น้อยกว่า เราต้องดูน่าเชื่อถือพอ ที่ลูกค้าจะไว้วางใจในการเลือกซื้อล๊อตใหญ่ๆ จากเรา แน่นอน การแต่งกายของเรา ต้องพูดเรื่องนี้ด้วย
ภาพลักษณ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่แบ่งคนที่สำเร็จแบบสง่างาม กับ คนที่อยากสำเร็จ แต่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ ออกจากกันอย่างเห็นได้ชัด
Weena Image Coach ฝากข้อคิด
- แต่งตัวตามมูลค่า หรือ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือ บริษัทที่เราทำงานอยู่ จำเป็นที่ เมื่อเขาเห็นเรา เขาต้องเห็นแบรนด์ของเราด้วย
- ไม่แต่งตัวตามใจ ยึดอารมณ์เป็นหลัก เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ... เราจะได้อย่างเดียว คือ เรารู้สึกสบายตัว จากการแต่งตัวแบบสบาย โดยไม่รู้ตัวเลยว่า เราเสียสิ่งควรได้และสุดปรารถนาจากการทำงาน คือ โอกาสไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
- สร้างภาพของตัวเองที่ชัดเจน ไม่ใช่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ถ้าพูดเป็นคำได้ คนหลากหลาย แต่ต้องพูดประโยคเดียวกัน
- แต่งตัวให้ดูแพงเสมอ
ประเด็นนี้ ไม่เกี่ยวกับการซื้อของแบรนด์เนม หรือ ของต่อชิ้นที่มีราคาแต่อย่างใด
- แต่งตัวให้ดูน่าเชื่อถือ กับ แต่งตัวให้ดูแก่ ก็เป็นคนละเรื่องกัน
- จำไว้เลย "การแต่งตัว คือ Power"
- ฝากสโลแกน ที่ดิฉันชอบใช้ในคลาสช็อปปิ้ง คือ
" ความเร็วของการเปลี่ยน จะเท่ากับความเร็วที่เราถอดเสื้อผ้า"
การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลา
แต่จำเป็นต้องมีใจที่อยากเปลี่ยน
คำถามทิ้งท้าย ตอบแบบซื่อสัตย์กับตัวเอง คำตอบนี้ต้องการความกล้า
" เราขายสินค้าหรือบริการราคาเท่าไหร่
แล้ววันนี้ .... เราแต่งตัวราคาเท่าไหร่? "
ถ้าเรื่องนี้สำคัญสำหรับพวกเรา โอกาสในการหาคำตอบอยู่ที่นี่
ที่มา http://www.stock2morrow.com/showthread.php/64487-แต่งตัวถูก-ขายของแพง-...-สำเร็จยาก
ความสบาย คือ ปัจจัยเล็กๆ แต่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกในการแต่งตัว
แท้ที่จริง พวกเราไม่มีใครชอบ เวลาแต่งตัวแล้วเกิดความลำบาก ความอึดอัด เจ็บเท้า เมื่อยหลังหรอก ... แต่ต้องเข้าใจว่า ทำไมหลายคนยังทำ ทั้งๆที่ ไม่สบายบางอย่าง
ส่วนสำคัญที่เราต้องถามตัวเอง คือ มุมมองในการแต่งตัว สำหรับเรา เป็นเรื่องอะไร
- การแต่งตัว คือ ก็แค่การปกปิดร่างกาย
- การแต่งตัว เป็นเรื่องยุ่งยาก ต้องใช้เงินทอง สิ้นเปลือง
- แฟชั่น เทรนด์ เป็นเรื่องน่าเหนื่อยในการติดตาม
- ไม่มีใครจะมามองเราหรอก ใครจะไปสนเราล่ะ
ประเด็นอีกส่วนที่สำคัญ คือ เราทำมาหากิน ในเรื่องเกี่ยวกับอะไร
สินค้าหรือบริการที่เราให้กับคนอื่นนั้น สนนราคาสักเท่าไหร่กัน
เรามีหน้าที่ ในการเชื่อมต่อสินค้าหรือ บริการนั้น เพื่อส่งไปให้กับลูกค้าเสมอ ใช่หรือไม่
เช็คพ็อยท์ ที่อยากฝากให้คิด คือ
- เราพูดถึงสินค้าหรือบริการ ในมูลค่าประมาณเท่าไหร่
แล้ว
การแต่งตัวของเรา ถ้าประเมินค่าเงิน เราแต่งตัวชุดล่ะประมาณเท่าไหร่
และ
การแต่งตัวของเราเป็นเรื่องในระดับเดียวกันกับ มูลค่าสินค้าที่เรากำลังพูดถึงหรือไม่
- หรือ สินค้าหรือบริการของเรา ให้อะไรในมุมของลูกค้า เช่น ถ้าเราทำงานในสถาบันการเงิน
ความน่าเชื่อถือ คือ กุญแจเบอร์หนึ่ง ที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจ เลือกเราใช่มั๊ย แล้ว การแต่งตัวของเรา ดูน่าเชื่อถือหรือไม่ ในมุมมองของคนอื่น
- หรือ ถ้าเราขายของต่อชิ้นราคาไม่แพง แล้วเราอยากจะขายที่ละมากๆมั๊ยล่ะ ขายทีก็หยุดพักผ่อนได้ ดีกว่าขายทีละชิ้น เหนื่อยเท่ากันแต่ได้ตังค์น้อยกว่า เราต้องดูน่าเชื่อถือพอ ที่ลูกค้าจะไว้วางใจในการเลือกซื้อล๊อตใหญ่ๆ จากเรา แน่นอน การแต่งกายของเรา ต้องพูดเรื่องนี้ด้วย
ภาพลักษณ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่แบ่งคนที่สำเร็จแบบสง่างาม กับ คนที่อยากสำเร็จ แต่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ ออกจากกันอย่างเห็นได้ชัด
Weena Image Coach ฝากข้อคิด
- แต่งตัวตามมูลค่า หรือ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือ บริษัทที่เราทำงานอยู่ จำเป็นที่ เมื่อเขาเห็นเรา เขาต้องเห็นแบรนด์ของเราด้วย
- ไม่แต่งตัวตามใจ ยึดอารมณ์เป็นหลัก เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ... เราจะได้อย่างเดียว คือ เรารู้สึกสบายตัว จากการแต่งตัวแบบสบาย โดยไม่รู้ตัวเลยว่า เราเสียสิ่งควรได้และสุดปรารถนาจากการทำงาน คือ โอกาสไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
- สร้างภาพของตัวเองที่ชัดเจน ไม่ใช่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ถ้าพูดเป็นคำได้ คนหลากหลาย แต่ต้องพูดประโยคเดียวกัน
- แต่งตัวให้ดูแพงเสมอ
ประเด็นนี้ ไม่เกี่ยวกับการซื้อของแบรนด์เนม หรือ ของต่อชิ้นที่มีราคาแต่อย่างใด
- แต่งตัวให้ดูน่าเชื่อถือ กับ แต่งตัวให้ดูแก่ ก็เป็นคนละเรื่องกัน
- จำไว้เลย "การแต่งตัว คือ Power"
- ฝากสโลแกน ที่ดิฉันชอบใช้ในคลาสช็อปปิ้ง คือ
" ความเร็วของการเปลี่ยน จะเท่ากับความเร็วที่เราถอดเสื้อผ้า"
การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลา
แต่จำเป็นต้องมีใจที่อยากเปลี่ยน
คำถามทิ้งท้าย ตอบแบบซื่อสัตย์กับตัวเอง คำตอบนี้ต้องการความกล้า
" เราขายสินค้าหรือบริการราคาเท่าไหร่
แล้ววันนี้ .... เราแต่งตัวราคาเท่าไหร่? "
ถ้าเรื่องนี้สำคัญสำหรับพวกเรา โอกาสในการหาคำตอบอยู่ที่นี่
ที่มา http://www.stock2morrow.com/showthread.php/64487-แต่งตัวถูก-ขายของแพง-...-สำเร็จยาก
วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557
ใครที่มี "ฝันใหญ่"
จะได้ยินคำพูดนี้บ่อยโดยเฉพาะจากคนรอบข้าง
"ลืมฝันนั้นไปก่อน.. อยู่กับความเป็นจริงเหอะ"
แต่ผมบอกว่า...
ถ้าคุณต้องการสร้างความสำเร็จจริงๆ
ลืมความเป็นจริงไปก่อน
อยู่กับความฝันของคุณให้มาก
แล้วหาวิธีกำหนดความจริงอันใหม่ขึ้นมาซะ
ปล่อยให้คนที่(ยัง)ไม่เห็นด้วย
อยู่ในความจริงอันเก่าของเขาไป
คุณมีหน้าที่แค่สร้างความจริงอันใหม่
ที่ยิ่งใหญ่กว่าเก่าให้เขาเห็น
ผมบอกว่า
..คุณคู่ควรกับความยิ่งใหญ่
..คุณคู่ควรกับความมั่งคั่ง
..คุณคู่ควรกับทุกเรื่องดีๆ ในชีวิต
ความจริงข้อนี้เป็นจริงยิ่งกว่าสิ่งที่คุณเห็นซะอีก
"ทุกสิ่งบนโลกถูกสร้างขึ้นจากความคิด"
อยู่ที่คุณแล้วครับว่า
คุณเชื่อมั่นในตัวเองมากพอหรือยัง
คุณเชื่อมั่นในฝันของตัวเองมากพอหรือยัง
ใครจะว่าอะไรก็อย่าไปสนใจเขา
ถ้าคุณเชื่อมั่นในความฝันของคุณแล้ว
มุ่งหน้าหาวิธีสร้างความจริงอันใหม่ขึ้นมาเลยครับ
จะได้ยินคำพูดนี้บ่อยโดยเฉพาะจากคนรอบข้าง
"ลืมฝันนั้นไปก่อน.. อยู่กับความเป็นจริงเหอะ"
แต่ผมบอกว่า...
ถ้าคุณต้องการสร้างความสำเร็จจริงๆ
ลืมความเป็นจริงไปก่อน
อยู่กับความฝันของคุณให้มาก
แล้วหาวิธีกำหนดความจริงอันใหม่ขึ้นมาซะ
ปล่อยให้คนที่(ยัง)ไม่เห็นด้วย
อยู่ในความจริงอันเก่าของเขาไป
คุณมีหน้าที่แค่สร้างความจริงอันใหม่
ที่ยิ่งใหญ่กว่าเก่าให้เขาเห็น
ผมบอกว่า
..คุณคู่ควรกับความยิ่งใหญ่
..คุณคู่ควรกับความมั่งคั่ง
..คุณคู่ควรกับทุกเรื่องดีๆ ในชีวิต
ความจริงข้อนี้เป็นจริงยิ่งกว่าสิ่งที่คุณเห็นซะอีก
"ทุกสิ่งบนโลกถูกสร้างขึ้นจากความคิด"
อยู่ที่คุณแล้วครับว่า
คุณเชื่อมั่นในตัวเองมากพอหรือยัง
คุณเชื่อมั่นในฝันของตัวเองมากพอหรือยัง
ใครจะว่าอะไรก็อย่าไปสนใจเขา
ถ้าคุณเชื่อมั่นในความฝันของคุณแล้ว
มุ่งหน้าหาวิธีสร้างความจริงอันใหม่ขึ้นมาเลยครับ
คำพูดกินใจของปราชญ์จีน
ที่มา http://www.stock2morrow.com/showthread.php/64257-คำพูดกินใจของปราชญ์จีน
๑ "ซุนวู"
" ชมคนด้วยวาจา... มีค่ายิ่งกว่ามอบไข่มุกให้เป็นของขวัญ
ทำร้ายคนด้วยวาจา... สาหัสยิ่งกว่าทิ่มแทงด้วยหอกดาบ.."
๒ "ฮั่วหลัวเกิง"
" คนอื่นช่วยเรา... เราจะจำไว้ชั่วชีวิต
เราช่วยคนอื่น... จงอย่าจำใส่ใจ "
๓ "ปันกู้"
" น้ำใสสะอาดเกินไป... ย่อมไร้ซึ่งมัจฉา
คนที่เข้มงวดเกินไป... ย่อมไร้ซึ่งบริวาร "
๔ "หลี่ต้าเจา"
" ความไม่พอใจ... ความกลัดกลุ้มหงุดหงิด ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราฮึดสู้มากยิ่งขึ้น ไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้... ห่อเหี่ยวยอมจำนนต่ออุปสรรค์..."
๕ "ปาจิน"
" ในชีวิตของเรา... มิตรภาพเปรียบเสมือนโคมส่องสว่างดวงหนึ่ง... ซึ่งสาดส่องจิตวิญญาณของเราให้สว่างไสว ทำให้ชีวิตของเรามีแสงสีอันงดงาม.."
๖ "หยางว่านหลี่"
" ตัวสกปรกก็คิดจะอาบน้ำ เท้าสกปรกก็คิดจะล้างเท้า แต่ใจสกปรก กลับไม่คิดที่จะชำระใจ..."
๗ "หูหลินอี้"
" สุขสบายเกินไป... เส้นสายก็พลอยหย่อนยาน จิตใจก็พลอยขลาดกลัว"
๘ "ซุนซือเหมี่ยว"
" พูดน้อย กลุ้มน้อย ตัณหาน้อย นอนน้อย... ถ้าสี่อย่างนี้น้อย ก็ใกล้จะเป็นเซียนแล้ว"
๙ "ลู่ซู"
" คนที่เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป... เป็นคนที่โดดเดี่ยวอ้างว้างที่สุด!"
๑๐ "ฟังเสี้ยวหยู"
" ไม่มีอะไรแย่เท่ากับความเย่อหยิ่งอวดดี... ผู้ที่คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ คือ คนที่ดีพอ... ผู้ที่คิดว่าตัวเองดีแล้ว คือ ผู้ที่ดีไม่พอ...!"
๑๑ "จางจื้อซิน"
" ต้องกล้าที่จะมองความจริง... แม้ว่าความจริงอาจจะทำให้เราเจ็บปวดมากๆ"
๑๒ "ซุนยาง"
" ความอิจฉา... เป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพ ความระแวงสงสัย... เป็นศัตรูตัวร้ายกาจของความรัก ความรัก... ถ้าปราศจากความซื่อสัตย์จริงใจต่อกันเสียแล้ว ก็ไม่อาจเชื่อถือซึ่งกันและกันได้"
๑๓ "เจิงจิ้นเสียนเหวิน"
" ใช้จิตใจที่ชอบตำหนิผู้อื่น... มาตำหนิตัวเอง...
ใช้จิตใจที่ชอบให้อภัยตัวเอง...ให้อภัยผู้อื่น.."
๑๔ "ก่วนจ้ง"
" ขี้เกียจแล้วยังฟุ่มเฟือย... ย่อมยากจน
ขยันและประหยัด... ย่อมร่ำรวย.."
๑๕ "ขงเบ้ง"
"…สูงส่งแต่ไม่เย่อหยิ่ง ชนะแต่ไม่ลำพอง ปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที เข้มแข็งแต่มีความอดกลั้น.."
๑๖ "หลี่ปุ๊เหว่ย"
"...ก่อนที่จะเอาชนะคนอื่น... จักต้องเอาชนะตัวเองให้ได้เสียก่อน
ก่อนที่จะว่าคนอื่น... ควรพิจารณาดูตัวเองเสียก่อน
ก่อนหน้าที่จะรู้จักคนอื่น... ควรจะรู้จักตัวเองเสียก่อน.."
๑๗ "เล่าจื้อ"
" ผู้ที่รู้จักคนอื่นเป็นคนฉลาด... ผู้ที่รู้จักตัวเองเป็นคนมีสติ...
๑๘ "ขงจื้อ"
" สิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ... จงอย่าทำกับคนอื่น.."
๑๙ "ซือหม่าเชียน"
" คนที่ทำได้อาจพูดไม่ได้... คนที่พูดได้อาจทำไม่ได้.!!"
๒๐ "ซือหม่าเชียน"
" คนเราหนีไม่พ้นความตาย... แต่ความหมายการตายนั้น ไม่เหมือนกัน... บ้างมีค่าหนักกว่าขุนเขา... บ้างไร้ค่าเบากว่าขนนก..."
วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557
วันที่สำคัญที่สุดในชีวิตมีสองวัน
วันที่สำคัญที่สุดในชีวิตมีสองวันคือ
"วันที่คุณเกิด" กับ "วันที่คุณรู้ว่าคุณเกิดมาทำไม"
ผมมีความเชื่อว่าทุกคนเกิดมามีศักยภาพ
แต่มันจะไม่สำคัญเลย...
ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณเกิดมาเพื่ออะไร
เพราะคุณจะไม่สามารถ
ดึงศักยภาพทั้งหมดที่มีออกมาใช้ได้
ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของ "คุณ"
ที่ต้องค้นหามันให้เจอ
..ความชอบของคุณ
..ความถนัดของคุณ
มันคืออะไร..
เมื่อคุณค้นพบสองสิ่งนี้แล้ว
เมื่อคุณค้นพบความหมายของชีวิตแล้ว
ผมบอกได้เลยว่าชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป
เพราะคุณรู้แล้วว่าคุณไม่ใช่แค่คนธรรมดา
คุณเองก็เก่งไม่แพ้ใคร
คุณเองก็เจ๋งไม่แพ้ใคร
และที่สำคัญที่สุดคือ
คุณจะรู้ว่าสิ่งที่คุณทำ
คุณทำไปเพื่อใคร...
แต่ถ้าคุณค้นพบสองสิ่งนี้แล้ว
และรู้สึกว่ามันไม่ทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น
แปลว่าความชอบและความถนัดของคุณ
ยังไม่ตอบโจทย์ "ตลาด"
คือมีไม่กี่คนเท่านั้นที่ต้องการ
...ค้นหาใหม่ครับ
คุณอาจจะต้องใช้เวลาลองผิดลองถูกสักหน่อย
แต่เมื่อถึงเวลาที่มัน คลิ๊ก
รับรองว่าชีวิตคุณจะลื่นไหล
ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ
Wealth Creation ดูเพิ่มเติม
"วันที่คุณเกิด" กับ "วันที่คุณรู้ว่าคุณเกิดมาทำไม"
ผมมีความเชื่อว่าทุกคนเกิดมามีศักยภาพ
แต่มันจะไม่สำคัญเลย...
ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณเกิดมาเพื่ออะไร
เพราะคุณจะไม่สามารถ
ดึงศักยภาพทั้งหมดที่มีออกมาใช้ได้
ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของ "คุณ"
ที่ต้องค้นหามันให้เจอ
..ความชอบของคุณ
..ความถนัดของคุณ
มันคืออะไร..
เมื่อคุณค้นพบสองสิ่งนี้แล้ว
เมื่อคุณค้นพบความหมายของชีวิตแล้ว
ผมบอกได้เลยว่าชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป
เพราะคุณรู้แล้วว่าคุณไม่ใช่แค่คนธรรมดา
คุณเองก็เก่งไม่แพ้ใคร
คุณเองก็เจ๋งไม่แพ้ใคร
และที่สำคัญที่สุดคือ
คุณจะรู้ว่าสิ่งที่คุณทำ
คุณทำไปเพื่อใคร...
แต่ถ้าคุณค้นพบสองสิ่งนี้แล้ว
และรู้สึกว่ามันไม่ทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น
แปลว่าความชอบและความถนัดของคุณ
ยังไม่ตอบโจทย์ "ตลาด"
คือมีไม่กี่คนเท่านั้นที่ต้องการ
...ค้นหาใหม่ครับ
คุณอาจจะต้องใช้เวลาลองผิดลองถูกสักหน่อย
แต่เมื่อถึงเวลาที่มัน คลิ๊ก
รับรองว่าชีวิตคุณจะลื่นไหล
ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ
Wealth Creation ดูเพิ่มเติม
ความทุกข์ยากไม่ได้คงอยู่ตลอดไป
"20 ความจริงของชีวิตที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้"
โดย Oprah Winfrey หญิงผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลก
............................
1.อะไรที่คุณทำไป ไม่ว่าเรื่องดีหรือร้ายมันก็จะย้อนกลับมาหาคุณทุกครั้ง
...
2.จงสร้างนิยามชีวิตของคุณเอง อย่าให้คนอื่นมาเขียนบทให้
3.ไม่ว่าใครทำอะไรคุณในอดีต มันไม่เคยมีอำนาจในปัจจุบัน คุณนั่นแหละที่ให้อำนาจมัน
4.เวลาคนแสดงว่าเขาเป็นใคร จงเชื่อในครั้งแรก
5.ความกังวลทำให้เสียเวลาเปล่า ใช้พลังงานเดียวกันนั้นไปทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้คุณกังวลดีกว่า
6.สิ่งที่คุณเชื่อมีอำนาจมากกว่าสิ่งที่คุณเห็น คุณจะกลายเป็นสิ่งที่ตัวคุณเองเชื่อ
7.ถ้าในชีวิตนี้ คำอธิษฐานเดียวของคุณคือคำว่า "ขอบคุณ" นั่นก็เพียงพอแล้ว
8.ความสุขของคุณเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความรักที่คุณมอบให้ผู้อื่น
9.ความล้มเหลวคือป้ายบอกทางให้คุณเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง
10.โลกไม่ได้แตกสลาย ถ้าคุณจะเลือกสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคนอื่นๆ คิด
11.เชื่อในสัญชาตญาณของคุณ เสียงจากภายในไม่เคยโกหกคุณ
12.จงรักตนเอง แล้วก็เรียนรู้ที่จะเผื่อแผ่ความรักนั้นไปยังคนอื่นๆ ที่ได้พบ
13.ให้ความหลงใหลเป็นแรงผลักดันในอาชีพของคุณ
14.หาเงินจากสิ่งที่คุณรักและถนัด แล้วเงินค่าจ้างจะเป็นโบนัสของคุณ
15.ความรักไม่เคยทำร้ายใคร แต่ให้ความรู้สึกดีๆ อย่างแท้จริง
16.ทุกๆ วันนำโอกาสในการเริ่มต้นใหม่มาให้เสมอ
17.การเป็นแม่เป็นงานที่ยากที่สุดในโลก ไม่ว่าผู้หญิงที่ไหนๆ ก็ต้องยืนยันอย่างเดียวกัน
18.ความสงสัยแปลว่า "อย่า" -- อย่าเคลื่อนไหว อย่าตอบ อย่ารีบรุดไปข้างหน้า
19.ถ้าไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ให้อยู่นิ่งๆ สงบใจได้แล้วค่อยคิด คำตอบจะมาเอง
20.ความทุกข์ยากไม่ได้คงอยู่ตลอดไป
โดย Oprah Winfrey หญิงผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลก
............................
1.อะไรที่คุณทำไป ไม่ว่าเรื่องดีหรือร้ายมันก็จะย้อนกลับมาหาคุณทุกครั้ง
...
2.จงสร้างนิยามชีวิตของคุณเอง อย่าให้คนอื่นมาเขียนบทให้
3.ไม่ว่าใครทำอะไรคุณในอดีต มันไม่เคยมีอำนาจในปัจจุบัน คุณนั่นแหละที่ให้อำนาจมัน
4.เวลาคนแสดงว่าเขาเป็นใคร จงเชื่อในครั้งแรก
5.ความกังวลทำให้เสียเวลาเปล่า ใช้พลังงานเดียวกันนั้นไปทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้คุณกังวลดีกว่า
6.สิ่งที่คุณเชื่อมีอำนาจมากกว่าสิ่งที่คุณเห็น คุณจะกลายเป็นสิ่งที่ตัวคุณเองเชื่อ
7.ถ้าในชีวิตนี้ คำอธิษฐานเดียวของคุณคือคำว่า "ขอบคุณ" นั่นก็เพียงพอแล้ว
8.ความสุขของคุณเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความรักที่คุณมอบให้ผู้อื่น
9.ความล้มเหลวคือป้ายบอกทางให้คุณเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง
10.โลกไม่ได้แตกสลาย ถ้าคุณจะเลือกสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคนอื่นๆ คิด
11.เชื่อในสัญชาตญาณของคุณ เสียงจากภายในไม่เคยโกหกคุณ
12.จงรักตนเอง แล้วก็เรียนรู้ที่จะเผื่อแผ่ความรักนั้นไปยังคนอื่นๆ ที่ได้พบ
13.ให้ความหลงใหลเป็นแรงผลักดันในอาชีพของคุณ
14.หาเงินจากสิ่งที่คุณรักและถนัด แล้วเงินค่าจ้างจะเป็นโบนัสของคุณ
15.ความรักไม่เคยทำร้ายใคร แต่ให้ความรู้สึกดีๆ อย่างแท้จริง
16.ทุกๆ วันนำโอกาสในการเริ่มต้นใหม่มาให้เสมอ
17.การเป็นแม่เป็นงานที่ยากที่สุดในโลก ไม่ว่าผู้หญิงที่ไหนๆ ก็ต้องยืนยันอย่างเดียวกัน
18.ความสงสัยแปลว่า "อย่า" -- อย่าเคลื่อนไหว อย่าตอบ อย่ารีบรุดไปข้างหน้า
19.ถ้าไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ให้อยู่นิ่งๆ สงบใจได้แล้วค่อยคิด คำตอบจะมาเอง
20.ความทุกข์ยากไม่ได้คงอยู่ตลอดไป
วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
แค่หกส่วนก็พอ
ที่กรุงไทเปมีผู้รับเหมาก่อสร้างคนหนึ่ง เป็นคนหนุ่มที่ชาญฉลาดที่รู้กันทั้งวงการ มีหัวการค้าเป็นเลิศ ทำงานคล่องแคล่วว่องไว พร้อมลุยงานหนัก...
-
ผมไม่เคยรู้จักหลวงปู่สุภา พระเกจิชื่อดัง กระทั่งทราบข่าวท่านละสังขารทางหนังสือพิมพ์ พอได้อ่านคอลัมสกู๊ปหน้า 1 ไทยรัฐ วันที่ 5 กันยายน 2...
-
ฝั่งทะเลอันดามัน 1.หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะที่โดดเด่นด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวนวลละเอียดราวกับผงแป้ง หัวใจของสิมิลันคือ หินเรือใบที่โ...
-
" ....... Goal without Action , Just Dreaming ........ " "....... เป้าหมายที่ไม่ลงมือทำ มันก็แค่ความฝันตื่นหนึ่ง .....